บทความฟุตบอล ฮาลันด์ กับโอกาสการทำลายสถิติที่ยิ่งใหญ่
ที่สุดในประวัตศาสตร์ “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ”
บทความฟุตบอล ฮาลันด์ เป็นหนึ่งในนักเตะที่มีหลาย ๆ คนชื่นชมว่าเป็นหนึ่งในดาวเตะที่เก่งกาจที่สุดในวงการฟุตบอลของยุคนี้ แต่คงมีไม่กี่คนที่คิดว่าเขาจะเค้นฟอร์มได้พีคขนาดนี้ “แมนฯ ซิตี้” ได้รวดเร็วจนถึงขั้นที่ทำประตูทิ้งห่างบรรดาแนวรุกคนอื่น ๆ ใน “พรีเมียร์ลีก” ได้ขนาดนี้ทั้งที่เขาเพิ่งได้ลงเล่นในลีกไปแค่ 8 เกมเท่านั้น
ด้วยผลงานที่เจ้าตัวได้ทำไว้ในตอนนี้มันทำให้เราไม่รู้สึกแปลกใจเลยที่หลาย ๆ คนจะเชื่อว่าเขาจะสามารถคว้ารางวัล “ดาวซัลโว” สูงสุดของ “พรีเมียร์ลีก” ในฤูกาล 2022-23 ไปได้สำเร็จ แต่ที่บางคนอาจจะยังสงสัยคือจำนวนประตูที่เขาทำได้นั้นอยู่ที่เท่าไหร่กัน ด้วยผลงานที่เกิดขึ้นในตอนนี้ทำให้มันไม่น่าแปลกใจเลยที่หลายคนจะฟันธงว่า ฮาลันด์ จะคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดของศึก พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2022-23 ไปครองได้
ถ้าหาก “ฮาลันด์” ยังคงรักษามาตราฐานในการทำประตูของตัวเองแบบนี้ได้ต่อไป รวมถึงได้ลงเล่นเกมลีกทุกนัดที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้แล้วละก็ ซึ่งนั่นหมายความว่าเจ้าตัวอาจมีสิทธิ์ทำประตูเพิ่มได้อีก 52 ลูก และหากนับรวมกับผลงานในตอนนี้ก็เท่ากับว่าเขาจะจบฤดูกาลนี้ด้วยจำนวน 66 ประตูในลีก
แน่นอนว่าไม่ต้องบอกก็รู้ว่านั่นจะเป็นการทำลายสถติการทำประตูสูงสุด 1 ฤดูกาลของ “พรีเมียร์ลีก” ไม่ว่าจะเป็นทั้งในยุคที่เตะกัน 38 เกมต่อ 1 ซีซั่น หรือในยุคที่ดวลเดือดกัน 42 นัดต่อฤดูกาลก็ตามแต่ โดยในรูปแบบของ 38 เกมต่อฤดูกาลนั้นตำแหน่งมันตกเป็นของ “โมฮาเหม็ด ซาลาห์” ที่เคยทำไว้ 32 ประตู ในฤดูกาลที่ 2017-18 ส่วนยุคที่เตะกัน 42 นัด เจ้าของสถิติคือ “แอนดี้ โคล” และ “อลัน เชียเรอร์” ที่เคยทำไปได้ 34 ประตู ในฤดูกาลที่ 1993-94 และ 1994-95 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามหากเจ้าตัวสามารถทำประตูได้มากถึง 66 ลูกจริง ๆ นั่นหมายความว่าเขาจะทำลายสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลในประวัติศาสตร์ของ “พรีเมียร์ลีก” ในยุคที่ลีกสูงสุดของอังกฤษยังใช้ชื่อว่า ดิวิชั่น 1 ด้วยซ้ำ โดยสถิติที่ว่าได้แก่ “ดิ๊กซี่ ดีน” ที่เคยซัดประตูรวมไปถึง 60 ประตู กับ “เอฟเวอร์ตัน” จากการลงเล่นในลีก 39 นัด ในฤดูกาล 1927-28
ยิ่งไปกว่านั้น หากเกมลีก 30 นัดหลักจากนี้ นายใหญ่อย่าง “เป๊ป กวาร์ดิโอล่า” ตัดสินใจให้ “ฮาลันด์” ลุยศึกครบ 90 นาที ทุกเกมแล้วละก็ ผลงานของ “ฮาลันด์” ก็อาจจะเหนือไปกว่าที่เราคาดการณ์ขึ้นไปอีก ถึง 56 ประตู ซึ่งตัวเลขนี้เป็นผลจากค่าเฉลี่ยนการทำประตูที่เขาทำได้อยู่ที่ 1.89 ลูกต่อ 90 นาทีนั่นเอง ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นจริง ๆ มันจะทำให้เขามีสิทธิ์ซัดประตูไปได้สูงถึง 70 ลูกด้วยกัน
ในขณะเดียวกัน ในเกมที่เจอกับ “แมนฯ ยูไนเต็ด” เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ยังถือเป็นหลักไมล์สำคัญของ “ฮาลันด์” ด้วย เพราะมันเท่ากับว่าเขาลงเล่นในทุกรายการให้กับทีมใน 5 ลีกใหญ่ ของทวีปยุโรปเป็นจำนวน 100 นัดพอดี หลังจากเคยลงสนามให้กับ “ดอร์ทมุนด์” มากว่า 89 นัดในทุกรายการ
ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับเรา คลิก
ห้ามพลาด !!
อัพเดทข่าวสารแวดวงกีฬาพร้อมทีเด็ดแม่นๆจากกูรูชั้นนำ
คลิกเลย @Gurusportv1
