บทความฟุตบอล มาร์กซิยาล กับความล้มเหลวที่ “เซบียา”
บทความฟุตบอล มาร์กซิยาล หลังต้องย้ายไปซบทีม “เซบียา” ในวันที่ 25 มกราคม ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมชูนิ้วโป้งขึ้นทั้งสองข้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราได้เห็นไม่บ่อยนักในช่วงที่เขาลงสนามให้กับ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”
“ฆูเลน โลเปเตกี” ก็ออกมายอมรับเลยว่าเขามีความสุขมากที่ได้นักเตะเลือกน้ำหอมรายนี้มาร่วมทัพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาว่าทั้ง “ยูเวนตุส” และ “บาร์เซโลนา” ก็ต้องการตัวเขาเช่นเดียวกัน
“เซบียา” ในตอนนั้นอยู่อันดับที่ 2 ของตาราง “ลาลีกา” จากการคว้าชัยไปได้กว่า 13 นัด และแพ้เพียง 2 นัด เท่านั้น จากการลงเล่นในลีก 22 นัดแรกของฤดูกาล แต่ทว่าพวกเขาก็ต้องโดนเขี่ยตกรอบเมื่อไม่นานมานี้ใน “โคปา เดล เรย์” และ “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก” ลงมาเล่นใน “ยูโรปาลีก”
“มาร์กซิยาล” ได้เปิดตัวกับ “โอซาซูน่า” ในวันที่ 5 ของเดือนกุมภาพันธ์กับตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้า ที่จบลงด้วยการเสมอ 0-0 เมื่อ “อีวาน ราคิติช” ยิงจุดโทษพลาดในช่วงท้ายเกมอย่างน่าเสียดาย และทำให้พวกเขาพลาดโอกาสไล่จี้ “เรอัล มาดริด” เหลือเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น
ในถัดมาพวกเขาต้องเจอกับ “เอลเช่” เขาก็ได้เป็นตัวจริงอีกครั้ง แต่เป็นได้ลงเล่นตำแหน่งกองหน้าตัวต่ำ พร้อมทำไปหนึ่งแอสซิสต์ช่วยให้ทีมคว้าชัยชนะในครั้งนั้นมาได้ ตามมาด้วยอีกหนึ่งเกม ซึ่งเป็นจังหวะที่เขาสามารถยิงประตูแรกของตัวเองได้กับ “ดินาโม ซาเกร็บ” ในรอบน็อคเอาท์ของ “ยูโรปาลีก”
อย่างไรก็ตาม จากภาพรวมใน 10 เกมลีกแรกเขาได้ลงสนามเป็นตัวจริงไป 7 ครั้ง และได้รับบาดเจ็บถึง 2 ครั้ง ทั้งยังลงเล่นเป็นตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาอีก 1 ครั้ง โดยที่ไม่สามารถทำประตู และแอสซิสต์ให้กับทีมได้เลย แถมยังไม่เคยได้อยู่จนครบ 90 นาทีเลยแม้แต่เกมเดียว
ตัดภาพมาที่เกมสำคัญกับการเปิดบ้านตั้งรับการมาเยือนของจ่าฝูง ซึ่งในเกมนี้ “มาร์กซิยาล” ได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถเล่นต่อได้ ส่วนทีมของเขาก็เป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้ไปโดยปริยาย
ในหกเกมถัดมา เขาไม่แม้แต่จะมีรายชื่ออยู่ในทีมช่วง 3 เกมแรก ได้ลงเล่นในช่วง 23 นาที สุดท้ายกับ “มายอร์ก้า” เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม และก็ไม่ได้เห็นเขาอีกเลยในสองเกมถัดมา
ฤดูกาลของพวกเขาจบลงด้วยชัยชนะในบ้านเหนือ “แอธเลติก บิลเบา” และจบอันดับที่ 4 พร้อมคว้าตั๋วลงเล่น “แชมเปี้ยนส์ลีก” ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นเกมที่เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังต้องเห็นเมืองของพวกเขานั้นอัดแน่นไปด้วยแฟนบอล “เรนเจอร์ส” และ “ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต” เข้าแก่งแย่งกันเพื่อยื้อถ้วยที่เป็นเสมือนของรักของพวกเขา
ในช่วงแรกฝีเท้าของเขานั้นไม่เข้าท่าเอาเสียเลย เหล่าบรรดาแฟนบอลยังคงออกมาพูดถึงเขาในแง่บวก ว่าอาจจะเป็นเพราะ “มาร์กซิยาล” ไม่ค่อยมีโอกาสได้ลงเล่นสนามคงต้องใช้เวลาเรียกความฟิต และหวังว่าเขาจะสามารถกลับคืนฟอร์มเก่งของเขาได้
“เซบียา” เป็นทีมที่สามารถฟื้นฟูฟอร์มที่แท้จริงของพวกเขาได้ เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับ “เอเวอร์ บาเนก้า” ตอนย้ายมาจาก “บาเลนเซีย”
แต่สิ่งที่ทำให้ “มาร์กซิยาล” แตกต่างจาก “บาเนก้า” หรือนักเตะคนอื่น ๆ เลยคือทัศนะคติ เขาไม่ได้เล่นอย่างเต็มที่ ไม่ได้พยายามที่จะผูกมิตรกับเพื่อนร่วมทีม และไม่ได้พยายามทุกทางเพื่อให้ “เซบียา” เจรจาเพื่อเซ็นสัญญากับเขาถาวรจาก “ยูไนเต็ด”
มาโนโล มาร์ติน พิธีกรรายการวิทยุท้องถิ่น ได้กล่าวว่า “ไม่มีแม้แต่เกมเดียวเลยที่ผมดูเขาเล่นแล้วคิดว่ามันเป็นดีลที่คุ้มค่าจริง ๆ และนี่ขนาดต้นสังกัดของเขาช่วยออกค่าเหนื่อยไปบางส่วนด้วยแล้วนะ”
“สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นแค่นักเตะอีกหนึ่งรายที่ถูกยืมตัวมา และเราก็หวังว่ามันจะช่วยทีมได้อย่างในกรณีของ ซามีร์ นาสรี , อันเดร ซิลวา หรือ สเตฟาน โยเวติช แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่ได้เป็นอย่างนักเตะที่เราได้กล่าวมาเลย”
สำหรับต้นสังกัดอย่าง “แมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ด” เองก็คงผิดหวังไม่แพ้กัน นั่นก็เพราะหากเจ้าตัวทำผลงานได้ดี สโมสรก็จะสามารถเรียกค่าตัวกลับคืนมาได้อยู่บ้าง”
แต่ตอนนี้ด้วยวัย 26 ปี และสัญญาที่เหลืออยู่เพียงปีเดียว และการเข้ามาของ “เอริค เทน ฮาก” กับฟุตบอลที่เรียกร้องให้ทุกคนในสนามต้องใส่ทุกอย่างที่มีอยู่เสมอ
มันก็แอบหวั่นใจอยู่เหมือนกันว่า “มาร์กซิยาล” อาจจะเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่ย้ายเข้ามาแพง และเก็บกระเป๋าออกจาก “โอลด์ แทรฟฟอร์ด” ไปโดยที่สโมสรไม่ได้อะไรคืนกลับมาเลย
มันก็แอบหวั่นใจอยู่เหมือนกันว่า มาร์กซิยาล อาจจะเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่ย้ายเข้ามาแพงและเก็บกระเป๋าออกจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปโดยที่สโมสรไม่ได้อะไรคืนกลับมาเลย
ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับเรา คลิก
ห้ามพลาด !!
อัพเดทข่าวสารแวดวงกีฬาพร้อมทีเด็ดแม่นๆจากกูรูชั้นนำ
คลิกเลย @Gurusportv1
