บทความฟุตบอล ดิเอโก้ คอสต้า กับบทพิสูจน์ครั้งใหม่ในพรีเมียร์ลีก
บทความฟุตบอล ดิเอโก้ คอสต้า หัวหอกจากวูลฟ์สแฮมป์ตัน กล่าวหลังจากที่ได้หวนคืนสู่ “พรีเมียร์ลีก” อีกครั้ง มันคือบทพิสูจน์กับความท้าทายใหม่ของเขา
กองหน้าวัย 33 ปี ไม่มีสังกัดลงเล่นตั้งแต่เดือนมกราคม 2022 ที่ผ่านมาหลังการยกเลิกสัญญากับ “แอตเลติโก มิเนโร่” ก่อนจะตัดสินใจเซ็นสัญญากับวูลฟ์ส ซึ่งกำลังต้องการกองหน้ามาเสิรมทัพ หลังจากที่นักเตะอย่าง “ซาซ่า คาลัดซิช” หัวหอกคนใหม่อีกรายได้รับบาดเจ็บ และจำเป็นต้องพักฟื้นยาว ในขณะที่ “ราอูล ฆิมิเนซ” ก็เป็นอีกหนึ่งรายที่ได้รับบาดเจ็บ นี่จึงเป็นเหตุที่ทำให้ชื่อของ “ดิเอโก้ คอสต้า” กลับมาสู่ “พรีเมียร์ลีก” อีกครั้ง
“นี่คือสโมสรระดับแนวหน้า ที่เปี่ยมไปด้วยผู้เล่นทรงคุณภาพ พวกเขารู้ว่าทีมนี้เล่นฟุตบอลกันแบบใด และการได้รับโอกาศในการคัมแบ็คสู่ลีกเก่าก็เป็นสิ่งที่ผมสนใจ แน่นอนสโมสรโน้มน้าวใจผมได้ ถึงขั้นที่รู้ว่าผมจตะสามารถปรับตัวได้ง่ายกว่าเดิมอย่างแน่นอน เพราะที่นี่มีนักเตะโปรตุเกสอยู่หลายคน และมันจะช่วเหลือผมได้”
“การเล่นใน พรีเมียร์ลีก เป็นสิ่งที่ผมคิดถึงมันเสมอ นี่คือหนึ่งลีกที่ดีที่สุดในโลก ผมดีใจที่เคยมีประสบการณ์กับที่นี่มาแล้ว และการกลับมาอีกครั้งมันก็เต็มด้วยบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม แนวทางการเล่นของทีมในลีก บรรยากาศแฟนบอล และสนามแข่งที่ยอดเยี่ยม นักเตะทุกคนต่างเคารพกันเป็นอย่างดี”
2018 คือฤดูกาลสุดท้ายของเขาในเวทีพรีเมียร์ ลีก เขาอำลาเชลซีกลับไปเล่นฟุตบอลใน “ลา ลีกา สเปน” กับ “แอตเลติโก มาดริด” เป็นคำรบที่สองก่อนที่จะอยู่กันเพียงสามปี เขาก็ย้ายไปเล่นในบราซิล และสุดท้ายเขาก็มาที่พรีเมียร์ ลีก อีกครั้ง แน่นอนด้วยอายุถึง 33 ปี เขาย่อมถูกมองเป็นกองหน้าอายุมากที่ไม่ดุดันเหมือนดังเก่าก่อน และเขาก็ยอมรับในเรื่องนี้เช่นกัน
“การมาเล่นในพรี เมียร์ลีก คุณจะต้องเตรียมร่างกาย และจิตใจให้พร้อม ใจผมพร้อมรับมือกับความท้าทายครั้งใหม่แล้ว ส่วนร่างก็เป็นสิ่งที่ผมต้องเรียกร้องจากมันด้วยการฝึกซ้อม ผมจำเป็นต้องการ 2-3 สัปดาห์ในการปรับตัว ปรับสภาพร่างกายให้ฟิตมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมไม่ได้ทำอะไรกับร่างกายของผมมากนัก แต่ก็อย่างที่ผมบอก ผมรู้ตัวเองต้องทำอะไร”
“ถ้าผมสงสัยในศักยภาพของตัวเอง หรือผมคิดว่าตัวเองไม่เหลืออะไรให้ทำอีกแล้ว ผมจะไม่รับข้อเสนอนี้อย่างแน่นอน ผมเลือกรับข้อเสนอ เพราะผมมั่นใจว่าผมสามารถทำอะไรให้กับ ทีมที่ยื่นข้อเสนอเข้ามาได้”
การเข้ามาของ “ดิเอโก้ คอสต้า” เป็นหนึ่งในเลือกที่เรียกว่า “ผ่าทางตัน” สำหรับ “บรูโน่ ลาช” นายใหญ่ที่ต้องการติดตั้งอาวุธหนักในแเดนหน้า และแน่นอนว่า โปรไฟล์ของนักเตะ และพฤติกรรมที่ผ่านมา ทำให้การเจรจาระหว่างเขากับนักเตะเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าจะร่วมงานกันได้หรือไม่ เพราะเรากำลังพูดถึงฟุตบอล กีฬาที่ทำงานร่วมกันเป็นทีม
“เราคุยกันเยอะมากเลยละ แต่เราแทบจะไม่ได้คุยเรื่องส่วนตัวกันเลย เราคุยกันในเรื่องของฟุตบอล ผมบอกกับเขาว่าผมรู้สึกอย่างไร ผมบอกเขาว่าผมอยากกลับมาเล่นใน พรีเมียร์ ลีก มากแค่ไหน เช่นเดยีวกับที่ผมต้องการเวลาในการปรับตัว โปรดอย่าเร่งรัดอะไรกับผมในขั้นตอนนี้ แน่นอนว่าเราตกลงกันได้ เขาเข้าใจในสิ่งที่ผมสื่อ เราค่อนข้างตรงไปตรงมา เขายอมรับว่าเขามีการพูดคุยกับอดีตคนที่เคยทำงานร่วมกับผมมาก่อน มันอาจจะมีการพูดว่า ดิเอโก้ คอสต้า เป็นคนแบบนั้นเป็นคนแบบนี้ แต่สุดท้ายแล้วผู้จัดการทีมเลือกจะคุยกับผม และต้องการเวลาในรู้จักผมให้มากขึ้น รู้จักผมในฐานะนักเตะ และสร้างความไว้ใจกัน และกัน แน่นอนปัญหาใหญ่มากของผมคือการที่ผมไม่ได้ลงเล่นมานานกว่า 8 เดือน ผมเข้าใจเรื่องนี้ แต่อย่ามาตัดสินผมด้วยข้อมูลจากหน้าจอเลย”
ช่วงชีวิตของผ่านมาของ คอสต้า ด้วยวัย 33 ปี เขาผ่านประสบการณ์ในวงการลูกหนักมาอย่างหนักหน่วง ผ่านชีวิตโปรตุเกส , สเปน , อังกฤษ รวมถึงบราซิล ช่วงเวลาที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด เขาคือหนึ่งในกองหน้าที่ทุกทีมก็อยากได้ตัวไปร่วมงานด้วย คือหนึ่งใน “มอนสเตอร์” สำหรับแนวรับทุกทีม และแน่นอนว่าเขาก็ต้องมีช่วงที่ตกต่ำสุด ๆ ทั้งอาการบาดเจ็บที่เข้ามารุมเร้า การทะเลากับผู้จัดการทีมเชลซีในตอนนั้น พวกเขาทะเลาะกันหนักถึงขั้นไม่คุยกันหลายเดือน นักเตะออกจากอังกฤษไปอย่างดื้อ ๆ และสุดท้ายก็จบลงด้วยการแยกทางกัน ทั้งหมดคือส่วนน้อยนิดในเรื่องราวชีวิตของนักเตะคนนี้ แข้งที่เกิดในประเทศบราซิล แต่สุดท้ายก็ได้ไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายกับทีมชาติสเปน
ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับเรา คลิก
ห้ามพลาด !!
อัพเดทข่าวสารแวดวงกีฬาพร้อมทีเด็ดแม่นๆจากกูรูชั้นนำ
คลิกเลย @Gurusportv1
