เริ่มเกมมาเพียง 14 นาที ทีมเยือนมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เรนาโต้ ทาเปีย ไปทำแฮนด์บอลในเขต ผู้ตัดสินเช็ค VAR แล้วยืนยันคำเดิม ก่อนที่ คาริม เบนเซม่า จะสังหารเข้าไปไม่พลาด เรอัล มาดริด นำ 1-0

นาทีที่ 23 เจ้าบ้านมาได้จุดโทษคืนเหมือนกัน กอนซาโล่ ปาเซียนเซีย โหม่งไปโดนแขนของ เอแดร์ มิลิเตา ในเขต ผู้ตัดสินเป่าทันที และเป็น ยาโก้ อัสปาส วิ่งเข้าซัดตุงตาข่าย เซลต้า บีโก้ ตามตีเสมอ 1-1

นาทีที่ 41 “ราชันชุดขาว” เดินเกมต่อเนื่อง ดาวิด อลาบา ไหลบอลให้ ลูก้า โมดริช ปั่นด้วยขวาหน้าเขตโทษบอลพุ่งชนเสาเข้าไปอย่างสุดงาม เรอัล มาดริด ออกนำอีกครั้ง 2-1 พร้อมหมดครึ่งแรก

ครึ่งหลังนาทีที่ 56 ทีมเยือนได้สวนกลับเร็ว ลูก้า โมดริช จ่ายทะลุช่องให้ วีนิซิอุส จูเนียร์ สปีดหลุดเดี่ยวจากกลางสนามก่อนล็อกหลบ ออกุสติน มาร์เชซิน แล้วยิงเข้าไปไม่เหลือ เรอัล มาดริด นำห่าง 3-1

นาทีที่ 66 เรอัล มาดริด มาได้ประตูเพิ่ม 4-1 วีนิซิอุส จูเนียร์ พาบอลขึ้นทางซ้ายก่อนจ่ายตัดเข้าในถึง เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ วิ่งมาอัดด้วยขวาบนเส้นเขตโทษบอลพุ่งซุกก้นตาข่ายเข้าไป

นาทีที่ 87 ทีมเยือนมาได้จุดโทษอีกครั้ง เอแดน อาซาร์ ตัวสำรองอาสายิงแต่โดน ออกุสติน มาร์เชซิน พุ่งปัดได้ แม้ คาริม เบนเซม่า จะตามซ้ำแต่ก็ยังติดเซฟนายด่านเจ้าถิ่น

จบเกม “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด บุกถล่ม เซลต้า บีโก้ 4-1 คว้าชัย 2 นัดติด มี 6 แต้ม ผงาดนำจ่าฝูงลีกได้สำเร็จ