จากนั้นนาทีที่ 9 แมนยูฯ ได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ จ่ายบอลทะลุขึ้นมาให้ บรูโน เฟอร์นันเดส ล้มตัวกวาดบอลไปทางซ้ายให้ แอนโธนีย์ อีแลงกา เอี้ยวตัวปั่นด้วยขวา บอลพุ่งชนเสาอย่างน่าเสียดาย

ถึงนาทีที่ 16 แมนยูฯ ที่วันนี้เล่นดีผิดหูผิดตา มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ แอนโธนีย์ อีแลงกา จ่ายบอลให้ จาดอน ซานโช ดึงหลอก เจมส์ มิลเนอร์ ในเขตโทษ ก่อนยิงด้วยขวาเข้าไปอย่างเหนือชั้น

และในนาทีที่ 24 แมนยูฯ ได้ฟรีคิกข้างเขตโทษฝั่งซ้าย คริสเตียน อีริคเซน หลอกยิงด้วยขวา บอลโค้งจะเสียบเสาไกล แต่ อลิสสัน เบคเกอร์ ปัดออกไปได้

นาทีที่ 40 ลิเวอร์พูล เกือบตีเสมอจากจังหวะเปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ เจมส์ มิลเนอร์ ขึ้นโหม่งเน้นๆ บรูโน เฟอร์นันเดส สกัดบอลไม่ดีพุ่งเข้าหาประตูตัวเอง แต่โชคดีที่มี ลิซานโดร มาร์ติเนซ ยืนคุมเส้นอยู่พอดี ก่อนจะช่วยกันสกัดออกมาเข้าทาง ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ซัดด้วยซ้ายก็หลุดกรอบออกไป

จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำ ลิเวอร์พูล อยู่ 1-0

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 48 ลิเวอร์พูล ได้ทักทายก่อนจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แต่บอลพุ่งข้ามคานออกไป

จากนั้นนาทีที่ 53 แมนยูฯ หนีเป็น 2-0 อองโตนี มาร์ซิยาล ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง จ่ายบอลทะลุให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดเดี่ยวก่อนยิงเสียบเสาแรกเข้าไป