บทความฟุตบอล ไค ฮาเวิร์ตซ์ ผู้ที่เคยถูกกล่าวหาว่าได้รับค่าตัวไม่คุ้มเสีย
สู่การเป็นผู้ที่กอบกู้ชื่อเสียงของสโมสรกลับมา
บทความฟุตบอล ไค ฮาเวิร์ตซ์ ตัวรุกชาวเยอร์มันวัย 22 ปี รายนี้ กำลังขึ้นสู่จุดที่ฮ็อตที่สุดในสโมสร “เชลซี” หลังจากเมื่อไม่นานมานี้สามารถซัดประตูใส่ “นิวคาสเซิล” ในช่วงท้ายเกม และคว้าชัยมาให้แก่ต้นสังกัดมาในที่สุด
ซึ่งผลงานสุดพีคก็ได้ผงาดอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ ด้วยการทำประตูรวมถึง 6 ประตู ในช่วง 3 – 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวของทีมร่วมกับ “โรเมลู ลูกากู” ที่ 11 ประตูในปัจจุบัน ซึ่งมากกว่าในปีก่อนที่ทำไปได้เพียง 9 ประตู รวมจากทุกรายการ
หากเราจำความได้ในช่วงยุคที่ “แฟรงค์ แลมพาร์ด” ณ ฤดูร้อนปี 2020 ทัพ “สิงห์บลู” ได้สร้างความฮือฮาด้วยการทุ่มเงินกว่า 200 ล้าน เพื่อกระชากตัวนักเตะหน้าใหม่มาร่วมทัพ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือซูเปอร์สตาร์จาก “ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน” ที่มีค่าตัวสูงถึง 72 ล้านปอนด์
ในช่วงแรกที่เจ้าตัวได้เข้ามารับใช้ทัพ “สิงห์บลู” ระดับฝีเท้าที่เราได้เห็นกับค่าตัวที่พวกเขาจ่ายไปมันช่างไม่คุ้มเสียเอาซะเลย แม้จะได้รับความไว้วางใจจาก “แลมพาร์ด” ที่พยายามผลักดันให้เขาลงสนามเป็นตัวจริงอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถฉายแววเก่งออกมาได้ซักครั้งเดียว แถมภาพจำที่แฟนบอลได้เห็นจากหนุ่มน้อยรายนี้เต็มไปด้วยความ เก้ ๆ กัง ๆ ทั้งแข้งขาที่ดูไม่แข็งแรง ล้มง่าย โดนชนทีไรมีล้มกลิ้งไปตาม ๆ กัน ถึงแม้จะสามารถทำแฮทรริกได้ในเกม “คาราบาว คัพ” ร่วมกับ “บาร์นส์ลีย์” มาปลอบใจได้ก็ตามแต่หลังจากนั้นฟอร์มก็ยังออกมาไม่ต่างจากเดิม มันจนถึงขั้นทำให้เหล่าผู้คนตั้งคำถามว่า “ไอหนุ่มรายนี้มันมีดีจริงหรอ?”
เหตุการณ์มันยิ่งแย่ลงหลังจากที่เจ้าตัวเจอปัญหาโควิดจนต้องหายหน้าไปหลายสัปดาห์ หลังจากที่หวนคืนสู่สนามก็ต้องหลุดไปนั่งตัวสำรอง จนกระทั่ง “แฟรงคต์ แลมพาร์ด” โดนปลดออกจากตำแหน่งไปในช่วงเดือนมกราคม ปี 2021 ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวเพิ่งจะยิงในลีกไปได้เพียง 1 ประตูเท่านั้น จึงไม่แปลกใจที่จะถูกแฟนบอลตีตราว่า “ของเก๊”
ชะตาของนักเตะรายนี้กำลังจะเปลี่ยนไป หลังจากที่กุนซือรายใหม่อย่าง “โธมัส ทูเคิล” ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลง “เชลซี” ที่กำลังย่ำแย่ให้กลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งขึ้นมาทันตาเห็น เช่นเดียวกับฟอร์มการเตะของ “ฮาเวิร์ตซ์” ที่แม้ในช่วงที่กุนซือเพื่อนร่วมชาติย้ายเข้ามาแรก ๆ ก็ยังประสบกับปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่เรื่อยมา แต่หลังจากกลับมาฟิตพร้อมลงสนาม “ทูเคิล” ก็จัดการสร้างตัวตนเขาขึ้นมาให้กลับมาฉายแววเด่นชนิดที่เรียกได้ว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเพียงแค่การวางตำแหน่งใหม่ในครั้งนี้ ซึ่งผลของการปรับแต่งในครั้งนี้ทำให้เจ้าตัวสามารถหาพื้นที่ได้ดีมากยิ่งขึ้น รวมทั้งความอันตรายของเขาถูกนำมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และแน่นอนว่าผลงานดีจนสามารถเบียดขึ้นมาเป็นตัวจริงแทนที่ “แทมมี อับราฮัม” ได้สำเร็จ ส่วนทางด้านของ “ติโม แวร์เนอร์” ก็ถูกส่งไปเล่นตำแหน่งตัวริมเส้นแทน จนสุดท้ายก็สามารถสร้างเสียงเฮให้กับสโมสรได้ด้วยการซัดประตูคว้าชัย “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ในรอบชิงชนะเลิศ “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก” พาทีมผงาดเป็นแชมป์สมัยที่สองได้ทันทีตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายเข้ามา
ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับเรา คลิก
ห้ามพลาด !!
อัพเดทข่าวสารแวดวงกีฬาพร้อมทีเด็ดแม่นๆจากกูรูชั้นนำ
คลิกเลย @UFA88SV1
