บทความฟุตบอล ซลาตัน กับนักเตะใจกล้าทั้ง 6 ราย
ที่ลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับเขาอย่างไม่มีเกรงกลัว
บทความฟุตบอล ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หนึ่งในนักเตะที่มีคาแรกเตอร์ประจำตัวที่เรียกได้ว่าบ้าระห่ำที่สุดคนหนึ่ง ตลอดเส้นทางแห่งวงการลูกหนัง เจ้าตัวเคยเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทมานับไม่ถ้วน ซึ่งบางครั้งเหตุการณ์มันก็บานปลายจนเกือบถึงขั้นลงไม้ลงมือ หากเพื่อนร่วมทีมหรือผู้จัดการทีมไม่เข้าไปจับแยกเสียก่อน ในวัย 43 ปีนี้ กองหน้าสัญชาติสวีเดนรายนี้ยังคงค้าแข้งกับฟุตบอลอาชีพ และดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีท่าทีที่จะอำลาวงการเลยแม้แต่น้อยเลยในตอนนี้ ในปี 2020 “อิบราฮิโมวิช” กลับมาที่ “เอซี มิลาน” หลังจากหายไปนานถึง 8 ปี และกองหน้ารายนี้ก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้สโมสรกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งจากที่ยักษ์ใหญ่อิตาลีสามารถกลับสู่เวที “แชมเปี้ยนส์ ลีก” ได้เป็นครั้งแรกในรอบแปดปีของฤดูกาลนั้น ซึ่งในวันนี้ทาง Guru Cafe ก็อยากจะพาทุกท่านย้อนกลับไปดูการเผชิญหน้าที่รุนแรงที่สุดของดาวเตะชาวสวีเดนกับผู้กล้าทั้ง 6 ราย ที่เผชิญหน้ากับเขา และนับว่าเป็นเหตุการณ์ที่โด่งดังที่สุดอีกด้วย ซึ่งจะมีใครบ้างนั้นเราไปดูกันต่อดีกว่า
“เขามาขอโทษหลังเกม เพราะในช่วง 60 นาที เขาบอกว่าเขาจะทำร้ายผมในเกมนั้น” โอนูโอฮา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “นี่คือชายที่บอกว่าเขาคือหน้าตาของ MLS อย่างที่เขาเรียกตัวเขาเองแบบนั้น และเขาเล่นแบบนั้นในสนาม ดังนั้นผมไม่แคร์หรอกหากมีใครบางคนเข้ามาและพยายามที่จะบอกแบบนั้นกับผม คุณไม่พูดแบบนั้นในสนามนี่ ผมไม่สนใจหรอก ผมจะไม่รับการขอโทษจากเขา มันเป็นสิ่งที่รับไม่ได้”
เนดุม โอนูโอฮา
อิบราฮิโมวิช ใช้เวลาเพียงฤดูกาลเดียวใน “เมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์” ที่ “แอลเอ กาแล็คซี่” แต่เวลาของเขาในอเมริกาก็หนีไม่พ้นที่จะเจอกับเหตุเบาะแว้ง ในการแข่งขันระหว่าง “กาแล็คซี่” กับ “เรียล ซอลท์ เลค” ในปี 2019 “โอนูโอฮา” และ “อิบราฮิโมวิช” ก็มีเหตุประทะกัน ในเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อเจ้าตัวโดนใบเหลืองในนาทีที่ 60 จากการเหนี่ยวคอ “โอนูโอฮาลง” ไปกองกับพื้นทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นไม่มีบอลด้วยซ้ำ “โอนาฮา” กล่าวในภายหลังว่า แข้งสวีเดนรายนี้ ได้ข่มขู่เขาหลังมีเหตุเสียบสกัด และการเผชิญหน้าระหว่างทั้งคู่ไม่นานหลังจากเหตุการณ์ครั้งแรก “อิบราฮิโมวิช” ยิงประตู และดีแสดงท่าทางดีใจสุดขีดต่อหน้า “โอนูฮา” และอดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษกล่าวว่าเขาปฏิเสธคำขอโทษจากนักเตะรายนี้ในห้องแต่งตัว
มาร์กอส โรโฮ
กองหลังชาวอาร์จินา พบว่าการไม่จ่ายบอลให้กับแข้งสวีเดนในระหว่างการฝึกซ้อมจะพบเจอกับสูตรแห่งความหายนะ โดยในระหว่างการฝึกซ้อมของ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ในระหว่างที่ “โรโฮ” ส่งบอลให้ “ป็อกบา” ไม่ใช่ “อิบราฮิโมวิช” ที่ร้องขอมัน และต่อมาดาวเตะฟ้าขาวได้เปิดเผยในภายหลังถึงเหตุการณ์นั้น
“ผมรู้ว่าเขาต้องการให้พวกเราจ่ายบอลให้เขาทั้งหมด แต่ในระหว่างเกม ผมเห็นเขาขอมัน และผมไม่ได้ให้มันกับเขา ผมส่งต่อให้ ปอล ป็อกบา จากนั้นเขาก็เริ่มที่จะระเบิดอารมณ์ใส่ผม ยกมือขึ้น และบอกผมหลาย ๆ อย่างเป็นภาษาสเปน และอังกฤษ ผมจึงบอกเขาไปว่า เป็นบ้าอะไรไอ้จมูกโต หุบปากไปซะ ในตอนนั้นผมรู้ดีว่าถ้าเขาเข้าถึงตัวผมได้เมื่อไหร่ เขาจะฆ่าผมในทันที ดังนั้นสิ่งเดียวที่ผมต้องทำคือเผชิญหน้ากับเขา”
“หลังจากที่พวกเราเขาไปในห้องแต่งตัว ผมบอกให้เขาหุบปาก และหยุดตะโกน เราเริ่มที่จะด่ากันไปมา และเพื่อนร่วมทีมทุกคนก็ดูเราอยู่ และตรงกลาง โซเซ่ มูรินโญ่ ก็พยายามทำให้เรายุติเหตุการณ์นี้ลง”
โจอี้ บาร์ตัน
ในเหตุการณ์ที่ “บาร์ตัน” และ “อิบราฮิโมวิช” กำลังประทะคารมกันระหว่างการยืมตัวของแข้งชาวอังกฤษในฝรั่งเศสนั้น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นอย่างลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งคู่มีปากเสียงกันระหว่างครึ่งแรกของเกมการแข่งขัน ในศึกที่ “เปแอสเช” กับ “มาร์กเซย” ที่ “ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์” จากนั้น “บาร์ตั้น” ก็ล้อ “อิบราฮิโมวิช” เรื่องขนาดจมูกของเขา ระหว่างการเผชิญหน้ากันในศึก “กุป เดอ ฟร็องส์” ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่สุดท้ายแล้ว “อิบราฮิโมวิช” ก็จะได้เป็นคนหัวเราะที่หลัง เพราะเป็นคนคว้าชัยในศึกครั้งนี้ไปได้ถึงสองประตู ด้วยสกอร์ 2-0
ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ท
ไม่ใช่ผู้เล่นทุกคนที่เป็นเพื่อนกันในห้องแต่งตัว และ “ฟาน เดอ ฟาร์ท” และ “อิบราฮิโมวิช” เป็นตัวอย่างของคนสองคนที่ไม่มองหน้ากัน ทั้งคู่เล่นให้กับ “อาแจ็กซ์” ในปี 2004 ในตอนนั้นพวกเขาเผชิญหน้ากันในนัดกระชับมิตรระหว่าง “เนเธอร์แลนด์” และ “สวีเดน” ที่พวกเขาไปทำหน้าที่ให้ทีมชาติ และระหว่างเกม “ฮิบราฮิโมวิช” กำลังเคียร์เหล่ายบรรดานักเตะฮอลแลนด์ให้ออกไปจากพื้นที่ขณะที่เข้าหาประตู หนึ่งในผู้เล่นเหล่านั้นคือ “ฟาน เดอ ฟาร์ท” ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่ข้อดท้าจากการกระทำของกองหน้าชาวสวีเดน แต่มันไม่ได้จบเพียงแค่นั้น
เมื่อความบาดหมางมันหวีคูณขึ้นระหว่างทั้งคู่ ทั้งสองก็ถูกเรียกตัวให้เข้าร่วมการประชุมโดยผู้จัดการทีมในขณะนั้นอย่าง “โรนัลด์ คูมัน” ที่ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาที่เคืองใจของทั้งคู่ แต่ทว่า “ฟาน เดอ ฟาร์ท” ก็ปฏิเสธที่จะเคีลยร์ใจ และได้ตอบกลับว่า “อิบราฮิโมวิช” สิ่งที่เขาแต่ละอย่างนั้นล้วนเกิดจากความตั้งใจ และยังได้มาข่มขู่ผมอีกว่าจะหักขาของผม และนั่นไม่ใช่แค่ผมแต่เขาพูดสิ่งนี้กับทุกคน อย่างไรก้ตาม “ฟาน เดอ ฟาร์ท” ยอมรับในภายหลังว่าทั้งคู่เข้ากันไม่ได้เอาซะเลย
โอกูชี ออนเยวู
ในช่วงแรกที่ดาวยิงสวีเดนเข้ามายังทัพ “เอซี มิลาน” เขาได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องที่ดุเดือดที่สุดในอาชีพค้าแข้งอันยาวนานของเขา เมื่อเขาเกือบจะเปิดศึกเข้าประทะกับกองหลังชาวอเมริกันอย่าง “โอกูชี ออนเยวู” ซึ่ง “อิบรา” ได้กล่าวว่า “ร่างกายถูกสร้างมาราวกับนักชกรุ่นเฮฟวี่เวท” หลังจากความตึงเครียดระหว่างการฝึกซ้อมในวันหนึ่ง “อิบราฮิโมวิช” ก็มีอาการเดือดจัด และพุ่งเข้าไปท้าทาย “ออนเยวู” ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มต่อสู้กันเอง ดาวเตะชาวสวีเดนกล่าวว่าพวกเขาทั้งสองต่างก็ต้องการฆ่ากันให้ตายไปข้าง
“ผมบอก ออกเยวู ไปว่าผมไม่ได้พูดยียวนกวนประสาท แต่เขาก็ไม่หยุด” อิบราฮิโมวิช เขียนไว้ในอัดชีวประวัติของเขา “เขาได้แสดงท่าทางที่เหมือนบอกให้ผมหุบปาก แล้วเขาก็ทำอีกครั้งจนผมรู้สึกโกรธ แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่แม้แต่คำเดียว เพราะมันกำลังจะได้รู้ว่าผมมีความกวนประสาทขนาดไหน” ครั้งต่อไปที่เขาได้บอลในระหว่างฝึกซ้อม ผมรีบพุ่งเข้าไปหาเขาแล้วก็กระโดดโดยที่เท้า และรองเท้าสตั๊ดนำหน้าออกไป เป็นการเสียบสกัดประเภทที่เลวร้ายที่สุด แต่เขาเห็นผม และกระโดดหลบทัน ขณะที่เราทั้งคู่ล้มลงกับพื้น ความคิดแรกของผมคือ “ไอเวรเอ้ย” พลาดได้ยัง!! “เมื่อผมลุกขึ้น และเดินจากไป ผมรู้สึกได้ถึงแรงกระแทกมายังไหล่ของผม ไม่เข้าท่าเลย โอกูชี ออนเยวู”
“ผมเริ่มเปิดด้วยการเอาหัวโขกเขา และเราก็ซัดกันนัวห เราต้องการใส่กันให้แหลกกันไปข้าง ซึ่งมันเป็นเหตุการณ์ที่ดุเดือดมาก เรากลิ้งไปมา ต่อยและตีเข่าใส่กัน เราบ้างคลั่ง และกำลังเดือดสุด ๆ ” มันเหมือนเราอยู่บนเส้นทางแห่งความเป็น และความตาย “ผมถูกหยุดเอาไว้โดยเพื่อนร่วมทีม และผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ดี มันอาจจะกลายเป็นเรื่องที่รุนแรงไปได้มากกว่านี้ ตลอดเวลาผมคิดว่า ผมเจ็บหน้าอก เราก็เลยไปตรวจ ปรากฏว่าผมซี่โครงหักจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น”
ซิมง เคียร์
ถึงแม้ในปัจจุบันนี้ทั้ง “เคียร์” และ “อิบรา” จะเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ “เอซี มิลาน” แต่การประทะกันระหว่างพวกเขาเมื่อช่วงสี่ปีก่อนหน้านั้นอาจจะทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ ทีม “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ของ “อิบราฮิโมวิช” ที่ต้องเจอกับ “เฟเนร์บาเช่” ในการแข่งขัน “ยูโรป้า ลีก” เมื่อปี 2016 เมื่อแข้งสวีเดนรายนี้รู้สึกหงุดหงิดกับแทคติการมาร์กแบบประกบติดของ “เคียร์”
จนถึงช่วงหนึ่งที่ทั้งคู่ต่างพยายามวิ่งเข้าหาลูกบอล แต่ทว่า “อิบราฮิโมวิช” ก็จงใจที่จะผลักกองหลังชาวเดนมาร์กรายนี้ออกไปให้พ้นทางของเขา และแน่นอนว่า “เคียร์” ก็ไม่ทนกับการกระทำดังกล่าวอย่างแน่นอน และตอบโต้ด้วยวิธีของเขาเองด้วยการคว้า “อิบรา” เอาไว้ในขณะที่ดาวเตะสวีเดนเข้าไปหาบอล จากนั้น “อิบราฮิโมวิช” ก็คว้าคอของ “เคียร์” ทำเพื่อนร่วมทีม และโค้ชของ “แมนฯ ยูไนเต็ด” ต่างต้องเข้ามาแยกก่อนที่จะเหตุการณ์รุนแรงไปมากกว่านี้
“จริง ๆ แล้วผมไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูด ผมเพียงรู้แต่ว่าผมไม่โอเคะกับสิ่งที่เขาทำ แต่นั่นเป็นวิธีที่ผมรู้จักกับเขาจากสนาม เขาเป็นผู้เล่นคนหนึ่งที่ขี้เบ่ง คนยที่ยโสโอหังนั่นคือวิธีการเล่นของเขา วิธีการเล่นของผมคือการประกบเขาให้ติดที่สุด และให้พื้นที่เขาน้อยที่สุดเพราะเขาเป็นผู้เล่นที่ดี”
“มันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการฟุตบอล และผมไม่ได้จริงจังกับมันมาก มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเล่นกับเขา และผมรู้ดีว่าเขาจะตอบสนองอย่างไร มันไม่ใช่ปัญหา อย่างที่ผมพูดไปว่าเป็นส่วนหนึ่งของเกม”
ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับเรา คลิก
ห้ามพลาด !!
อัพเดทข่าวสารแวดวงกีฬาพร้อมทีเด็ดแม่นๆจากกูรูชั้นนำ
คลิกเลย @UFA88SV1
