ข่าวบอล แมนฯ ซิตี้ สถิติสุดโหดหลังถล่ม ลิสบอน

ข่าวบอล แมนฯ ซิตี้ นับเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากล่าสุดบุกไปถล่ม สปอร์ติ้ง ลิสบอน ได้ถึง 5-0 กับการเล่นเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ข่าวบอล แมนฯ ซิตี้ ฟอร์มดังกล่าวทำให้หลายคนยกให้ เรือใบสีฟ้า เป็นตัวเต็งอันดับ 1 ที่จะได้สัมผัสกับถ้วย บิ๊กเอียร์ ในฤดูกาลนี้มากขึ้นไปอีก ซึ่งมันก็มีเกร็ดและสถิติที่น่าสนใจหลายอย่างของ แมนฯ ซิตี้ จากผลงานจากการชนะ สปอร์ติ้ง แบบขาดลอยเหมือนกัน ลองไปดูกันสักหน่อยว่าสิ่งที่เกิดจากความโหดของพวกเขามันมีอะไรบ้าง

ทีมแรกในประวัติศาสตร์
เป็นที่รู้กันดีว่าเกมเยือนนั้นมักจะเล่นได้ยากกว่าเกมในบ้าน ยิ่งในรายการใหญ่อย่าง แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้วนั้น มันก็ถือว่าเล่นได้ยากมากขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม ในนัดล่าสุด แมนฯ ซิตี้ ก็ยังสามารถบุกไปซัดใส่ สปอร์ติ้ง ได้ถึง 5 ลูก โดยในจำนวนนั้นเกิดขึ้นในครึ่งแรกถึง 4 ประตู และมันก็ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ถือเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่นำห่าง 4 ลูกได้ตั้งแต่ช่วงพักครึ่งของเกมรอบน็อกเอาต์ แม้ว่าจะต้องลงเล่นในฐานะทีมเยือนก็ตาม

สถิติสุดโหดหลัง แมนฯ ซิตี้ ถล่ม สปอร์ติ้ง ลิสบอน

เกมรับที่กลับมาเหนียว
ก่อนลงเล่นเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ สามารถเก็บคลีนชีทในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เพียงครั้งเดียวจาก 11 นัดหลังสุด ซึ่งถือเป็นผลงานต่างจากฤดูกาลก่อนอย่างสิ้นเชิงที่พวกเขาเคยเก็บคลีนชีทได้ถึง 7 นัดติดต่อกัน ในระหว่างเกมรอบแบ่งกลุ่มไปจนถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย

สถิติสุดโหดหลัง แมนฯ ซิตี้ ถล่ม สปอร์ติ้ง ลิสบอน

อย่างไรก็ตาม ในนัดล่าสุดทีมของ กวาร์ดิโอล่า ก็เก็บคลีนชีทในศึกถ้วยยุโรปได้ โดยเกมนี้แนวรับของ แมนฯ ซิตี้ เล่นได้ดีมากๆ จนส่งผลให้ เอแดร์ซอน โมราเอส ไม่จำเป็นต้องออกแรงเซฟแม้แต่ชอตเดียว โดยตัวเลขด้าน “จำนวนประตูที่น่าจะเสีย” หรือการปล่อยให้ สปอร์ติ้ง มีโอกาสยิงง่ายๆ จนน่าจะส่งผลให้เกิดประตูนั้น อยู่ที่ 0.13 เท่านั้น

ยิงกระจาย
แมนฯ ซิตี้ใ นยุคของ กวาร์ดิโอล่า มีจุดเด่นในเรื่องเกมรุกอยู่แล้ว อย่างเกมนัดล่าสุดพวกเขาก็ยิงได้เกินกว่า “ความน่าจะเป็นของประตูที่ควรจะทำได้” ด้วยซ้ำ เพราะที่จริงตัวเลขจากการคำนวณทั้งทิศทางการยิง, ความยากง่ายของการยิง ฯลฯ ระบุว่าพวกเขาควรจะทำได้ 2.5 ประตู แต่ในความเป็นจริงกลับยิงได้ถึง 5 ลูก

สถิติสุดโหดหลัง แมนฯ ซิตี้ ถล่ม สปอร์ติ้ง ลิสบอน

ผลงานจากนัดล่าสุดทำให้ตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ กลายเป็นทีมที่ 14 ในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำประตูในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก แตะหลัก 200 ลูก อย่างไรก็ตาม พวกเขาใช้เวลาไปเพียง 97 เกมในการยิงให้ถึงหลักดังกล่าว ซึ่งถือว่าเร็วกว่าทั้งรุ่นพี่ 13 ทีมก่อนหน้านี้

สเตอร์ลิง กับเส้นทางสู่การเป็นที่ 1
แม้ว่าเขาจะมีช่วงที่ฟอร์มตกไปบ้าง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ราฮีม สเตอร์ลิง ถือเป็นหนึ่งในตัวความหวังในเกมรุกของ แมนฯ ซิตี้ ชุดปัจจุบัน โดยจากการที่นัดล่าสุดเขาทำประตูได้ 1 ลูก ทำให้ตอนนี้เจ้าตัวเป็นอันดับ 2 ในชาร์ตนักเตะชาวอังกฤษที่ทำประตูได้มากที่สุดในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ร่วมกับ พอล สโคลส์ แล้ว

สถิติสุดโหดหลัง แมนฯ ซิตี้ ถล่ม สปอร์ติ้ง ลิสบอน

 

สำหรับอันดับ 1 ในชาร์ตดังกล่าวคือ เวย์น รูนี่ย์ ที่ยิงไปได้ 30 ลูก ซึ่งจากการที่ สเตอร์ลิง เพิ่งมีอายุแค่ 27 ปี ทำให้เขายังมีโอกาสดีที่จะแซงสถิติของ รูนี่ย์ ได้

ติดตามข่าวสารกีฬาไปกับเรา คลิก 

ห้ามพลาด !!

อัพเดทข่าวสารแวดวงกีฬาพร้อมทีเด็ดแม่นๆจากกูรูชั้นนำ

คลิกเลย @Sport88s

ข่าวบอล แมนฯ ซิตี้ สถิติสุดโหด 500 ลูก

ข่าวบอล แมนฯ ซิตี้ สถิติสุดโหด ทำประตูไป 500 ลูก ใน 207 นัด ภายใต้กุนซือ เป๊ป กวาดิโอล่า

ข่าวบลอ แมนฯ ซิตี้ ชัยชนะล่าสุดพบ ลีดส์ ยูไนเต็ด 7-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอังคารที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมาของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มันไม่ได้เพียงแค่การันตีว่าพวกเขาจะยังนำเป็นจ่าฝูงต่อไปเท่านั้น แต่มันยังทำให้ โจเซป กวาร์ดิโอล่า สร้างสถิติเป็นกุนซือที่พาทีมยิงใน พรีเมียร์ลีก แตะหลัก 500 ลูกได้เร็วที่สุดด้วย จากการใช้เวลาไปเพียงแค่ 207 นัด

น่นอนว่าด้วยความที่ กวาร์ดิโอล่า เป็นกุนซือที่เน้นเกมบุกเป็นหลักมาตั้งแต่อยู่กับ บาร์เซโลน่า ทำให้มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ แมนฯ ซิตี้ จะยิงได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ก่อนหน้านี้ก็คงมีไม่กี่คนที่จะคิดว่าเขาจะใช้เวลาสร้างสถิติอย่างรวดเร็วแบบนี้ได้ ซึ่งเพื่อเป็นการสดุดีต่อผลงานชั้นยอดระดับนี้ วันนี้เราเลยมีเกร็ดเกี่ยวกับการที่ทีมของ กวาร์ดิโอล่า ยิงใน พรีเมียร์ลีก แตะหลัก 500 ลูกเร็วที่สุดมานำเสนอกันสักหน่อย

เทียบกับกุนซือคนอื่น
อย่างที่บอกไปว่า กวาร์ดิโอล่า กลายเป็นกุนซือที่นำทีมยิงใน พรีเมียร์ลีก ถึงหลัก 500 ลูกได้เร็วที่สุด แต่บางคนอาจจะลืมไปแล้วว่าเจ้าของสถิติเดิมคือ เจอร์เก้น คล็อปป์ จากการที่เขาเคยพา ลิเวอร์พูล ยิงในลีกถึงหลักครึ่งพันประตูได้ด้วยเวลา 234 นัด ซึ่งที่จริงผลงานของ คล็อปป์ ก็ถือว่าน่าทึ่งแล้ว แต่ กวาร์ดิโอล่า ยังทำให้มันเหนือกว่านั้นได้

ทั้งนี้ หากย้อนไปหลายปีก่อนหน้านี้นั้น คนที่เคยเป็นเจ้าของสถิตินี้คือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หลังจากเขาใช้เวลา 265 เกมในการนำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิงในลีกครบ 500 ลูก ส่วนคนที่น่าสนใจอื่นๆ นั้น มีอย่างเช่น อาร์แซน เวนเกอร์ ที่ใช้เวลาไป 271 นัดในตอนคุม อาร์เซน่อล, โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งใช้เวลา 289 เกม และ ราฟาเอล เบนิเตซ ที่คุมทีมใน พรีเมียร์ลีก ไป 329 นัดกว่าที่จะแตะหลัก 500 ประตูได้

ผลงานแต่ละฤดูกาล
ที่จริงประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ลูกที่ 500 ของ กวาร์ดิโอล่า กับ แมนฯ ซิตี้ เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่ ฟิล โฟเด้น ยิงให้ทีมขึ้นนำ ลีดส์ 1-0 ในนาทีที่ 8 แล้ว ดังนั้นถ้านับตารางแบบเรียลไทม์มันก็จะเท่ากับว่าตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ กวาร์ดิโอล่า ยิงในลีกไปแล้วถึง 506 ประตูด้วยกัน

ทั้งนี้ ถ้านับเฉพาะซีซั่นนี้นั้นทีมของ กวาร์ดิโอล่า กดในลีกไปแล้ว 40 ลูก ขณะที่ฤดูกาลที่ทีมของเขายิงในลีกได้มากที่สุดคือฤดูกาล 2017-18 จากการที่ตอนนั้นทีมของเขาทำประตูในลีกได้ถึง 106 ประตู ซึ่งแน่นอนว่าฤดูกาลนั้นทีมของเขาก็ได้แชมป์ลีกไปเชยชม

สำหรับซีซั่นที่ทีมของ กวาร์ดิโอล่า ยิงในลีกได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 คือฤดูกาล 2019-20 จากการที่ทีมของเขาทำได้ถึง 102 ประตู ถึงกระนั้นในฤดูกาลดังกล่าว แมนฯ ซิตี้ ก็เป็นเพียงอันดับ 2 ในลีก เพราะแชมป์ตกเป็นของ ลิเวอร์พูล นั่นเอง

จำนวนประตูในลีกของ แมนฯ ซิตี้ ยุค กวาร์ดิโอล่า ในแต่ละฤดูกาล
2016-17 80 ประตู (จบฤดูกาลด้วยอันดับ 3)
2017-18 106ประตู (จบฤดูกาลด้วยการเป็นแชมป์)
2018-19 95 ประตู (จบฤดูกาลด้วยการเป็นแชมป์)
2019-20 102 ประตู (จบฤดูกาลด้วยอันดับ 2)
2020-21 83 ประตู (จบฤดูกาลด้วยการเป็นแชมป์)
2021-22 40 ประตู (ยังไม่จบฤดูกาล)

ผู้ทำประตู
ด้วยความที่อยู่กับ แมนฯ ซิตี้ มาตั้งแต่ปี 2016 ทำให้ กวาร์ดิโอล่า มีโอกาสได้ร่วมงานกับนักเตะฝีเท้าดีหลายราย แต่คนที่ยิงประตูในลีกให้กับ แมนฯ ซิตี้ ในยุคของเขามากที่สุดก็หนีไม่พ้น เซร์คิโอ อเกวโร่ หลังจากดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ทำประตูในลีกในยุคของ กวาร์ดิโอล่า ไปถึง 82 ประตู

อย่างไรก็ตาม มันก็มีโอกาสที่ อเกวโร่ จะโดนเขี่ยตกจากการเป็นที่ 1 เหมือนกัน เพราะคนที่เป็นอันดับ 2 ในชาร์ตนี้คือ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ทำไปแล้ว 76 ประตู และตอนนี้ดาวเตะดีกรีทีมชาติอังกฤษก็ยังไม่ได้ย้ายไปไหนด้วย ทำให้เขามีโอกาสที่จะเพิ่มจำนวนประตูในลีกให้กับ กวาร์ดิโอล่า ได้อีก โดยที่อันดับ 3 ตกเป็นของ กาเบรียล เชซุส ที่ทำไปแล้ว 52 ลูก

เกมที่ยิงกระจาย
แม้ว่าจะแพ้ไปถึง 0-7 แต่ ลีดส์ ก็ไม่ใช่เหยื่อที่โดน แมนฯ ซิตี้ เล่นงานหนักที่สุดแต่อย่างใด ทีมที่ได้ตำแหน่งดังกล่าวก็คือ วัตฟอร์ด เพราะในเกมลีกที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 21 กันยายน ปี 2019 แมนฯ ซิตี้ เคยไล่ต้อนอีกฝ่ายไปถึง 8-0 โดยวันนั้น แบร์นาร์โด้ ซิลวา เป็นพระเอกของเกมจากการที่ทำแฮตทริกได้

นอกจากนี้ มันยังเคยมีเกมลีกอีก 1 นัดที่ แมนฯ ซิตี้ ในยุคของ กวาร์ดิโอล่า ซัดไป 7 ประตู นั่นคือเกมเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ปี 2017 จากการที่วันนั้นพวกเขาเปิดบ้านเจอกับ สโต๊ค ซิตี้ เพียงแต่วันนั้นสกอร์มันอยู่ที่ 7-2 ซึ่งในเกมนั้น เชซุส ทำคนเดียว 2 ลูก ส่วนอีก 5 ประตูแบ่งเป็นผลงานของ สเตอร์ลิง, ดาบิด ซิลบา, แฟร์นันดินโญ่, ลีรอย ซาเน่ และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา

ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับเรา คลิก 

ห้ามพลาด !!

อัพเดทข่าวสารแวดวงกีฬาพร้อมทีเด็ดแม่นๆจากกูรูชั้นนำ

คลิกเลย @Sport88s

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า